วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

โรคแคงเกอร์




โรคแคงเกอร์

            โรคแคงเกอร์หรือที่ชาวสวนเรียกว่าโรคขี้กลาก เป็นโรคที่สำคัญที่สุดของการปลูกมะนาว โรคนี้แม้ว่าจะไม่ทำให้ต้นมะนาวตายโดยตรงแต่จะทำให้ต้นมะนาวทรุดโทรม ใบร่วง กิ่งแห้ง และผลผลิตเสียหาย โรคแคงเกอร์เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas campestris pv.citri เป็นโรคที่สร้างความเสียหายให้กับพืชตระกูลส้มได้เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะมะนาวซึ่งจัดได้ว่าเป็นพืชตระกูลส้มเหมือนกัน และมะนาวมีความอ่อนแอต่อโรคแคงเกอร์มากที่สุด  โรคนี้เป็นกันทุกสวนแหละครับ โรคนี้เข้าทางปากใบและทางบาดแผลได้ง่าย และสามารถฟักตัวอยู่ในดินได้นาน ดังนั้นโรคนี้จะระบาดรุนแรงเมื่อสภาวะแวดล้อมเหมาะสม เช่น อุณหภูมิพอเหมาะคือประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูงดังนั้นโรคนี้มักจะระบาดหน้าฝนเป็นส่วนใหญ่
            ลักษณะอาการของโรคแคงเกอร์ สามารถเกิดได้กับทุกส่วนของมะนาว ตั้งแต่ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ดอก และผล อาการบนใบ ระยะแรกจะเริ่มจากจุดกลมเล็กๆ ลักษณะใสฉ่ำน้ำ มีสีชัดกว่าสีใบปกติเมื่อขยายใหญ่ขึ้นจะมีลักษณะฟูคล้ายฟองน้ำสีเหลืองอ่อน ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม แตกสะเก็ดขรุขระนูนและแข็ง ตรงกลางจะเป็นรอยบุ๋ม สีวงสีเหลือล้อมรอบแผล ถ้าเป็นมากๆจะเป็นแผลขนาดใหญ่และมีรูปร่างไม่แน่นอน  เกิดได้ทั้งสองด้านของใบ และจะมีอาการรุนแรงมากขึ้นหากมีหนอนชอนใบระบาด หากเป็นมากใบจะร่วงก่อนกำหนด



            อาการบนกิ่ง ก้าน และลำต้น มีลักษณะอาการคล้ายกันกับการเกิดที่ใบ หากเป็นรุนแรงจะเกิดรอบกิ่งเป็นปุ่มขนาดใหญ่ รูปร่างไม่แน่นอน ทำให้ต้นแคระแกร็น กิ่งก้านแห้งตาย ต้นทรุดโทรม อาจถึงตายได้ 

            อาการบนผล จะเกิดจุดฝังลึกลงในผิวของผลอ่อน แผลนูนและปรุโปร่งคล้ายฟองน้ำ มีสีเหลือง แข็ง ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและตกสะเก็ด หากเป็นมากจะทำให้ผลแตกตามรอยแผลของโรค มะนาวจะให้ผลน้อย และผลร่วงก่อนกำหนด

            การป้องกันและกำจัด ส่วนใหญ่ชาวสวนใช้ยาเขียวเป็นสารกลุ่มคอปเปอร์  ชื่อการค้าก็พวก ฟังกุราน  นอกจากใช้ยาแล้วก็ควรตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอให้แสงแดดส่องทั่วทั้งต้น หากมีกิ่งที่เป็นโรคก็ควรตัดทิ้งไปเพราะปล่อยไว้ก็จะระบาดต่อไปอีก  ให้ปุ๋ยและน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อให้มะนาวแข็งแรง มีความต้านทานโรคมากขึ้น ป้องกันการระบาดของหนอนชอนใบโดยใช้สารพวกอะบาแม็คตินก็ได้ผลดีโดยเฉพาะช่วงแตกใบอ่อนใหม่หนอนชอนใบจะเข้าทำลายเร็วมาก

โรคแคงเกอร์ทำให้เป็นแผลแล้วลูกแตก




5 ความคิดเห็น:

  1. แคงเกอร์มะนาว ตอนนี้มีทางกำจัดแล้วน่ะค่ะ เป็นการวิจัยจากทางลาดกระบัง นอกจากใช้ในมะนาวแล้ว ยังสามารถใช้กับพืชอื่นๆที่เกิดโรคจากแบตทีเรียได้ค่ะ
    นาโนซิงค์ออกไซค์ สารตัวนี้เป็นอนุภาคระดับนาโน นั่นหมายถึง มีขนาดเล็กๆๆๆมากๆๆๆๆ ดังนั้นผู้ใช้ควรพิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องใช้ การระบาด ความรุนแรงของโรค พื้นที่ปลูก และอีกหลายๆอย่างประกอบกัน แต่ถ้าถามว่าลดต้นทุน และสามารถกำจัดโรคแคงเกอร์ได้จริงไหม ตอบได้เลยว่าลดต้นทุนได้มาก มีต้นทุนในการฉีดพ่นต่อถังละ 200 ลิตร แค่ประมาณ 20 บาท แต่ถ้าเป็นคอปเปอร์ก็จะอยู่ที่ประมาณ 150 บาท (ราคาเพชรบุรี) และสามารถกำจัดได้จริง มีชาวสวนมะนาวในเพชรบุรีหลายท่านใช้แล้วยืนยันผลได้ค่ะ
    ดังนั้นถ้าท่านใดสนใจจะใช้จึงขอแนะนำว่าให้สวมหน้ากากป้องกันทุกครั้ง ทั้งในขณะผสมยา และฉีดพ่น รวมถึงแต่งกายให้มิดชิด ฉีดพ่นแล้วกลับมาล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย ให้ตรงตามหลัก GAP ค่ะ
    ตอนนี้ โอ๋ไปรับของจากทางสถาบันที่ลาดกระบังมาขายให้เกษตรกรในจังหวัดเพชรบุรีอยู่ ถ้าท่านใดสนใจจะซื้อก็ยินดีค่ะ ถุงละ 1 กิโล 460 บาท ค่าจัดส่งถุงละ 25 บาท โทรมาสอบถาม พูดคุยกันได้ค่ะ โทร 0811359162 email arashi_13@hotmail.com facebook oohsiraprapa line ID oohsira ยินดีส่งรูปสินค้าให้ดูค่ะ
    ไปรับมาขายด้วยตนเองของแท้แน่นอนค่ะ ได้คุยกับทางผู้วิจัยที่สถาบัน ฝากมาบอกว่า ถ้าเป็นนาโนซิงค์ออกไซด์ (Nano-Zno) ของแท้ผ่านการวิจัยและรับรองคุณภาพ ต้องซื้อจาก 2 แห่งเท่านั้นคือ ศูนย์วิจัยนาโนเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร ด่านช้าง และวิทยาลัยนาโนเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ของแท้ต้องมี sticker ของสถาบันแปะไว้บนถุงน่ะค่ะ

      ลบ
    2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  2. ผมก็ได้ทดลองใช้อยู่นะครับ ถามว่าได้ผลร้อยเปอร์เซนต์หรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ใช้มาระยะหนึ่ง ผลมะนาวก็ไม่ค่อยมีแคงเกอร์ให้เห็นนะครับ ส่วนตามลำต้นและใบยังไงก็ไม่หมดแน่ ผมก็ซื้อจากศูนย์ที่ด่านช้างครับ แต่เสนอแนะนิดหนึ่งสำหรับผู้ที่จะใช้ ท่านต้องคนยาบ่อยๆ เพราะมันตกตะกอนเร็วมากครับ

    ตอบลบ
  3. อันตรายมากนะครับ โดยเฉพาะคนพ่นยา

    ตอบลบ